ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสุนัขของคุณ
เมื่อพูดถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของคนเลี้ยงหมา การดูแลสุขภาพและป้องกันโรคถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การพาเจ้าตัวน้อยไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำจะช่วยให้เรารับรู้ถึงสัญญาณเริ่มต้นของอาการเจ็บป่วย และดูแลรักษาได้อย่างทันท่วงที โดยในบทความนี้ เราได้รวบรวม 10 โรคของสุนัขที่พบได้บ่อยมาฝากกัน
ตามมาดู 10 โรคที่เกิดในสุนัข พร้อมเรียนรู้ธรรมชาติของโรค ลักษณะอาการ การดูแลรักษา และวิธีหลีกเลี่ยงจากโรคเหล่านี้ไปด้วยกัน
โรคเรบีส์หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรคพิษสุนัขบ้า” เกิดจากการติเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อสมองและไขสันหลังของสุนัข โรคนี้แพร่กระจายผ่านทางน้ำลายโดยการกัด ข่วน หรือเลีย ติดเชื้อได้ทั้งในคนและสัตว์ มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนที่เหมาะสมและด้วยการสร้างความตระหนักรู้ ในบางประเทศ เจ้าของและสุนัขต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ถูกต้องในการป้องกันโรคร้ายแรงนี้
ถือเป็นหนึ่งในโรคของสุนัขที่อันตราย เมื่อติดเชื้อแล้วสุนัขมีโอกาสเสียชีวิตสูง เชื้อไวรัสอันตรายชนิดนี้สามารถแพร่กระจายผ่านสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจ สุนัขที่ติดเชื้อมักจะมีไข้ น้ำตาไหล ไอ มีน้ำมูก อาเจียน ชัก และท้องเสีย แม้ว่าโรคนี้จะไม่มียารักษาโดยตรง แต่ก็มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ โดยวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัขจัดอยู่ในกลุ่มวัคซีนหลัก
การติดเชื้อพาร์โวไวรัสหรือโรคลำไส้อักเสบเป็นโรคที่เกิดในสุนัขบ่อย แพร่กระจายได้ง่ายผ่านสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อ พื้นผิวที่ปนเปื้อน อุจจาระ ชามน้ำ ชามอาหาร สายจูง เสื้อผ้า และมือ ไวรัสนี้สามารถอยู่รอดบนพื้นผิวได้หลายวัน และไม่สามารถกำจัดด้วยน้ำยาหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดตามปกติ โรคนี้จะโจมตีระบบทางเดินอาหารของสุนัข ทำให้มีไข้ ท้องเสียอย่างรุนแรง และอาเจียน ทั้งนี้การติดเชื้อพาร์โวไวรัสสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนเป็นประจำ
การติดเชื้อราที่ผิวหนังติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรงและพื้นผิวที่ติดเชื้อ เชื้อราสามารถอยู่รอดได้ในดิน ทำให้ยากต่อการกำจัด ไวรัสชนิดนี้ทำให้สุนัขขนร่วงเป็นหย่อม ๆ รวมถึงอาจมีอาการคันและเจ็บปวดอย่างรุนแรง แม้ว่าสุนัขสามารถฟื้นตัวจากโรคนี้ได้โดยไม่ต้องรักษา แต่ทางที่ดีควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อค้นหาวิธีบรรเทาความเจ็บปวดและอาการคันที่เกิดขึ้น
ตับอ่อนอักเสบเป็นโรคของสุนัขที่พบได้ทั่วไป การอักเสบเกิดจากการย่อยสลายโดยเอนไซม์ของตับอ่อนเอง หากน้องหมามีอาการเบื่ออาหาร ไม่ยอมกิน ดูเศร้า หรือมีอาการปวดท้อง ควรพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้สุนัขที่เป็นโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังมีโอกาสเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร รวมถึงโรคเบาหวานได้
โรคหลอดลมอักเสบเกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด ทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส อาการที่พบบ่อยที่สุดคืออาการไอแห้งเหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอ โรคนี้อาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง ซึ่งมักจะหายไปภายใน 2 – 3 สัปดาห์ หากมีอาการน้อยก็อาจไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากมีอาการรุนแรง อาจต้องให้ยาปฏิชีวนะบางชนิดเพื่อรักษาและบรรเทา
จัดเป็นหนึ่งในโรคของสุนัขที่พบบ่อยที่สุด มีเห็บเป็นตัวพาหะ โรคนี้ทำให้สุนัขมีอาการเจ็บปวดตามข้อ อ่อนแรง อ่อนเพลีย เซื่องซึม อวัยวะล้มเหลว มีภาวะโลหิตจาง และถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพื่อให้แน่ใจว่าน้องหมาของคุณจะไม่ติดเชื้อร้ายแรงชนิดนี้ คุณควรป้องกันเห็บหมัดให้น้องหมาเป็นประจำ หมั่นทำความสะอาดบ้านและสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้งนี้สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ป้องกันเพิ่มเติม
โรคนี้เกิดจากแบคทีเรียเลปโตสไปรา (Leptospira) แพร่กระจายผ่านปัสสาวะของสุนัขที่ติดเชื้อ การดื่มน้ำ กินอาหาร หรือสัมผัสสิ่งที่ปนเปื้อน สุนัขที่ติดเชื้อจะมีอาการต่าง ๆ เช่น อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง เหนื่อยล้า เซื่องซึม ปวดท้อง หรือในกรณีที่แย่ที่สุดคือมีภาวะไตวาย ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับวัคซีนที่เหมาะสมสำหรับน้องหมาของคุณ
โรคเรื้อนเกิดจากการติดเชื้อตัวไรบนผิวหนัง ทำให้เกิดอาการคันและขนร่วงมากผิดปกติ สุนัขที่ติดเชื้อจะเกาและเลียอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถแพร่โรคไปยังสุนัขตัวอื่นได้ทางปาก อาการนี้สามารถรักษาได้โดยใช้แชมพูป้องกันปรสิตและยาปฏิชีวนะที่สัตวแพทย์แนะนำ
โรคพยาธิหนอนหัวใจเป็นโรคที่พบบ่อยในสุนัข มียุงเป็นตัวพาหะ สุนัขที่ติดเชื้ออาจมีปัญหาการหายใจ อ่อนเพลีย ไอ อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากมายที่ช่วยป้องกันโรคนี้ได้
การตรวจสุขภาพเป็นประจำคือวิธีป้องกันโรคที่เกิดในสุนัขได้ดีที่สุด มันช่วยให้เรารับรู้ถึงสัญญาณเริ่มต้นของอาการเจ็บป่วย รวมถึงป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงจากการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่าลืมพาเจ้าตัวน้อยของคุณไปตรวจสุขภาพตามนัดหมายกันล่ะ!
สัญญาณเริ่มต้นของการเจ็บป่วยทั่วไปในสุนัขมีตั้งแต่ความอยากอาหารลดลง มีไข้ มีปัญหาในระบบย่อยอาหาร หากสังเกตเห็นพฤติกรรมหรืออาการผิดปกติ แนะนำให้พาน้องหมาของคุณไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ
โรคของสุนัขส่วนใหญ่ป้องกันได้โดยการเลือกโภชนาการที่เหมาะสม การรักษาสุขอนามัย และการพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ
คุณควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทุก ๆ สองสามเดือน แม้ว่าพวกเค้าจะไม่มีอาการผิดปกติใดเลยก็ตาม หรือหากพบว่าสุนัขมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปและมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
ช้อปเลย!
เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพดดิกรี® ได้ที่