หมัดหมาและเห็บหมา เป็นปัญหากวนใจเจ้าของหลาย ๆ คน ปรสิตตัวร้ายเหล่านี้สร้างความรำคาญ ความไม่สบายตัว และเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพบางประการด้วย เมื่อน้องหมามีหมัดและเห็บหมา พวกเค้ามักจะมีอาการคัน ระคายเคืองผิวหนัง และอาจถึงขั้นมีภาวะโลหิตจาง การทำความเข้าใจวงจรชีวิตของหมัดและเห็บหมา และเรียนรู้วิธีสังเกตสัญญาณของการติดเชื้อจะช่วยให้คุณปกป้องน้องหมาจากปรสิตที่น่ารำคาญเหล่านี้ได้
ความแตกต่างระหว่างเห็บและหมัด
เห็บ: มีขนาดใหญ่กว่า มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ลำตัวแบนและมีสีเข้ม ลักษณะคล้ายแมงมุม มักทิ้งรอยกัดเป็นวงคล้ายเป้า มีสะเก็ดหรือตุ่มนูนขึ้นมา แม้ว่าเห็บส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่บางชนิดสามารถแพร่เชื้อโรคสู่สัตว์เลี้ยงได้
หมัด: มีขนาดเล็กมาก เพียงประมาณ 1/8 นิ้ว จึงสังเกตเห็นได้ยาก มักทิ้งรอยกัดเป็นจุดแดงเล็ก ๆ ตามผิวหนังของสุนัข ซึ่งอาจทำให้สุนัขคัน ระคายเคือง และอาจสูญเสียขนได้ในบริเวณที่ถูกกัด
เห็บหมาและหมัดหมาต่างกันทั้งลักษณะและพฤติกรรม หมัดมีขนาดเล็ก กระโดดเก่ง อาศัยอยู่ตามขนและดูดเลือดบ่อย ส่วนเห็บตัวใหญ่กว่า เคลื่อนไหวช้า มักเกาะติดแน่นกับผิวหนังและดูดเลือดเป็นเวลานาน หมัดสามารถแพร่พันธุ์ได้เร็วและทำให้สุนัขคันมาก ขณะที่เห็บหมาอาจเป็นพาหะของโรคร้ายแรง เช่น พิษเห็บหรือไข้เลือดออกในสุนัข
วงจรชีวิตของเห็บหมา
- ไข่: หลังจากดูดเลือดจากพาหะ เห็บตัวเมียจะวางไข่ในบริเวณที่มีโอกาสพบพาหะรายใหม่มากที่สุด ไข่เห็บจะมีลักษณะใส สีแดงหรือน้ำตาล
- ตัวอ่อน (Larvae): ไข่จะฟักออกมาเป็นตัวอ่อน และจะเกาะบนพาหะตัวแรกเพื่อดูดเลือด เมื่ออิ่มแล้วจะหลุดออกและพัฒนาในที่หลบซ่อนหรือบนตัวของพาหะ
- ตัวกลางวัย (Nymph): เมื่อตัวอ่อนพัฒนาเป็นตัวกลางวัย เห็บหมาจะมองหาพาหะที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (รวมถึงมนุษย์) และอาจแพร่เชื้อโรคที่ติดมาจากระยะตัวอ่อนไปยังพาหะรายใหม่ผ่านการดูดเลือด
- ตัวเต็มวัย (Adult): หลังจากดูดเลือด ตัวกลางวัยจะพัฒนาเป็นเห็บโตเต็มวัย เห็บตัวเมียจะพยายามหาเลือดเพื่อการสืบพันธุ์ วางไข่ เริ่มวงจรใหม่อีกครั้ง
วงจรชีวิตของหมัด
การทำความเข้าใจวงจรชีวิตของปรสิตชนิดนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาและหยุดการแพร่ระบาด โดยวงจรชีวิตของหมัดจะแบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย
- ไข่: หมัดตัวเต็มวัยจะวางไข่บนตัวสัตว์ที่เป็นโฮสต์ ซึ่งบางส่วนอาจแพร่กระจายไปสู่สภาพแวดล้อมโดยรอบด้วย ทั้งนี้ไข่หมัดจะฟักเป็นตัวอ่อนภายในเวลาไม่กี่วัน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความชื้น
- ตัวอ่อน: ตัวอ่อนของหมัดจะกินเศษซากอินทรีย์และมูลของหมัดตัวเต็มวัย หลังจาก 5 – 20 วัน พวกมันจะสร้างรังไหมและเข้าสู่ระยะดักแด้
- ดักแด้: หมัดสามารถอยู่ในระยะนี้ได้ตั้งแต่สองสามวันไปจนถึงหลายเดือนก่อนกลายเป็นหมัดตัวเต็มวัย ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมภายในรังไหม
- ตัวเต็มวัย: หมัดตัวเต็มวัยจะโผล่ออกมาจากรังเมื่อพบโฮสต์ โดยอาจสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือนหรือความอบอุ่น จากนั้นพวกมันจะกระโดดเข้าหาโฮสต์ เริ่มหาอาหารและสืบพันธุ์ต่อไป
สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าสุนัขมีหมัดหรือเห็บหมา
น้องหมามีหมัดอาจแสดงอาการแตกต่างกันไป แต่สัญญาณเตือนที่พบได้บ่อย มีดังนี้
- การเลีย กัด หรือเกามากเกินไป: หมัดหมาทำให้เกิดอาการคันและระคายเคือง ส่งผลให้น้องหมาเกาหรือเลียตัวบ่อยขึ้น
- ผิวหนังแดงหรือระคายเคือง: น้องหมามีหมัดอาจมีปัญหาผิวหนังอักเสบ รอยแดง ตุ่ม หรือมีแผลตกสะเก็ด
- ขนร่วง: การเกาและเลียมากเกินไปอาจทำให้ขนร่วงเป็นหย่อมได้
- ขี้หมัด: มีลักษณะเป็นผงสีดำ พบได้บนผิวหนังหรือเบาะนอนของน้องหมา
- ตัวหมัด: อาจพบหมัดตัวเต็มวัยบนผิวหนังของน้องหมา โดยเฉพาะบริเวณโคนหาง คอ และท้อง
- กระสับกระส่ายหรือพักผ่อนไม่เต็มที่: น้องหมาที่มีหมัดมักจะนอนหลับไม่สนิท หรือมีอาการกระวนกระวาย เดินไปมา หรือเปลี่ยนท่านอนบ่อย ๆ เพราะรู้สึกไม่สบายตัวจากอาการคันและการรบกวนของหมัด
มาตรการป้องกันหมัดและเห็บหมา
- ดูแลป้องกัน: เลือกใช้ยาป้องกันหรือใส่ปลอกคอกำจัดหมัด ทั้งนี้ควรปรึกษาและทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
- ทำความสะอาดบ้าน: เก็บกวาดบ้านเป็นประจำ โดยเฉพาะในบริเวณที่น้องหมาอาศัยอยู่ รวมถึงทำความสะอาดเบาะนอนและของเล่นของพวกเค้าด้วย
- กรูมมิ่งเป็นประจำ: แปรงขนให้น้องหมาอย่างสม่ำเสมอ และหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ เช่น รอยแดงหรือขี้หมัดบนตัวน้องหมา
- ดูแลสวนหลังบ้าน: แนะนำให้ตัดหญ้าและกำจัดสิ่งสกปรกบริเวณสวนหลังบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์ของหมัดสุนัข
- จำกัดการมีส่วนร่วมกับสัตว์ตัวอื่น: หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้น้องหมาตัวอื่นที่อาจมีหมัด
วิธีกําจัดเห็บหมัดแบบ ได้ผล 100%
คุณสามารถทำตามขั้นตอนดูแลเหล่านี้ เพื่อกำจัดหมัดหมาให้สิ้นซากและป้องกันการแพร่ระบาดในอนาคต
- ยากําจัดเห็บหมัดสุนัขตามใบสั่งสัตวแพทย์:ใช้ยาป้องกันหมัดสุนัขที่เหมาะสมตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ โดยมีให้เลือกทั้งยารับประทาน ยาหยด และแชมพู
- ทำความสะอาดบ้าน: ปัดกวาดทำความสะอาดให้ทั่วบ้าน ซักเบาะนอน ของเล่น และข้าวของอื่น ๆ ของน้องหมาเป็นประจำ
- สเปรย์กำจัดเห็บหมัดหมา: ฉีดสเปรย์กำจัดหมัดภายในบ้าน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวัง
- ดูแลสวนหลังบ้าน: ตัดหญ้าเป็นประจำ เล็มพุ่มไม้ และกำจัดเศษขยะที่อาจเป็นแหล่งหลบซ่อนของหมัดหมาตัวร้าย หรืออาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดเพิ่มเติม
- ปลอกคอกันเห็บและหมัด: ปล่อยสารออกฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง ช่วยป้องกันและกำจัดเห็บหมัดได้ยาวนาน เหมาะสำหรับใช้ร่วมกับวิธีอื่นเพื่อเสริมประสิทธิภาพ
- อาบน้ำด้วยแชมพูกําจัดเห็บหมัด: ใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของสารกำจัดเห็บหมัดโดยเฉพาะ เพื่อช่วยลดจำนวนเห็บหมัดบนตัวน้องหมาได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับใช้ควบคู่กับการรักษาอื่น
- ใช้หวีกำจัดหมัด: หวีซี่ถี่ช่วยดักจับหมัดและไข่หมัดออกจากขนของน้องหมาได้ดี ควรหวีอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะบริเวณหลังหู โคนหาง และท้อง
การกำจัดหมัดหมาให้สิ้นซากเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่หากคุณรู้วิธีรักษาหมัดหมาที่ถูกต้อง น้องหมาของคุณก็จะปลอดภัย มีความสุข และมีสุขภาพดีได้ อย่าลืมปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับวิธีกำจัดหมัดที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับน้องหมาของคุณ รวมถึงควรหมั่นดูแลบ้านและสนามหญ้าให้สะอาดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด