ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสุนัขของคุณ
วางแผนขยายครอบครัวสี่ขากันอยู่หรือเปล่า? หากใช่ คุณอาจต้องทำความเข้าใจสัญญาณและอาการของสุนัขตั้งท้องกันก่อน รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมอย่างถูกวิธี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนสำหรับสุนัข เรารู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและก็น่ากังวล แต่ไม่ต้องกลัว! อ่านบทความของเราเพื่อเรียนรู้วิธีสังเกตอาการสุนัขท้องและเตรียมพร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำนี้
การเรียนรู้วิธีสังเกตอาการสุนัขท้องในแต่ละช่วงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้น้องหมาก้าวสู่การเป็นคุณแม่ได้อย่างราบรื่น การตรวจเช็กร่างกายโดยสัตวแพทย์ก็สำคัญมากเช่นกัน คุณหมอสามารถยืนยันและแนะนำแนวทางการตั้งท้องของน้องหมาได้ดีที่สุด สำหรับลักษณะหมาท้องที่คุณอาจสังเกตเห็นได้ มีดังนี้
ในระยะเริ่มแรก เราอาจจะยังไม่เห็นสัญญาณหรืออาการที่ชัดเจน แต่น้องหมาอาจมีความต้องการอาหารผิดแปลกไปเพราะระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง น้องหมาบางตัวก็อาจมีอาการแพ้ท้อง เช่น อาเจียน สิ่งสำคัญคือต้องแยกอาการแพ้ท้องออกจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ สุนัขอาเจียน แนะนำให้ไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กอย่างละเอียด
น้องหมาอาจมีความอยากอาหารและน้ำหนักเพิ่มขึ้น อาจพบอาการต่าง ๆ ด้วย เช่น เต้านมขยายใหญ่ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับการให้นมลูก
เมื่อถึงระยะนี้ ท้องของน้องหมาจะขยายใหญ่อย่างเห็นได้ชัด และอาจเริ่มมีพฤติกรรมทำรัง พวกเค้าอาจจะลากผ้าห่มหรือขุดมุมห้องโดยสัญชาตญาณเพื่อเตรียมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับลูกสุนัข
น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป เช่น หงุดหงิดหรือตามติดมากขึ้น คุณควรหมั่นสังเกตสัญญาณหรืออาการผิดปกติต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการตั้งท้องแล้ว น้องหมาจะเริ่มมีอาการเจ็บท้องคลอด อาจกระสับกระส่ายและหาที่พักผ่อนเพื่อเตรียมตัวคลอดลูก สิ่งสำคัญคือต้องคอยดูแลและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการคลอดให้มากที่สุด
ระยะตั้งท้องของสุนัขโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 57 – 72 วัน เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 63 วัน หรือประมาณ 2 เดือน ระยะตั้งท้องของสุนัขทุกสายพันธุ์และทุกช่วงวัยคาดเดาได้ แต่สำหรับวันเวลาคลอดที่แน่นอนอาจทำได้ยาก เนื่องจากวันที่ผสมพันธุ์ไม่ได้ตรงกับวันปฏิสนธิเสมอไป
ในช่วงเดือนแรก ไข่ที่ได้รับการผสมพันธุ์จะฝังตัวอยู่ในเยื่อบุโพรงมดลูก จากนั้นตัวอ่อนจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อผ่านพ้นช่วงนี้ไป สัตวแพทย์มักจะตรวจพบการเต้นของหัวใจ ซึ่งส่งสัญญาณว่าตัวอ่อนกำลังพัฒนาเป็นลูกสุนัข ควรพูดคุยกับสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้น้องหมาคลอดลูกอย่างปลอดภัยและการดูแลลูกสุนัขแรกเกิดเป็นไปอย่างราบรื่น
การตรวจการตั้งท้องมีหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีจะให้ข้อมูลเชิงลึกแตกต่างกันออกไป แม้ว่าคุณจะสังเกตหมาท้องได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ยังจำเป็นต้องได้รับการยืนยันจากสัตวแพทย์ โดยวิธีหลักที่สัตวแพทย์ใช้ตรวจสอบ มีดังนี้
ประมาณ 28 – 30 วันหลังจากการผสมพันธุ์ สัตวแพทย์สามารถคลำช่องท้องเพื่อยืนยันว่าสุนัขตั้งท้องได้ โดยจะกดบริเวณช่องท้องเบา ๆ เพื่อตรวจหาถุงน้ำที่มีตัวอ่อน อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและทักษะ เพราะการตรวจที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นอันตรายต่อตัวอ่อนในท้อง และถุงน้ำเหล่านี้จะตรวจพบได้เพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 25 – 35 วันหลังตั้งท้อง วิธีนี้ช่วยให้สัตวแพทย์สามารถสังเกตพัฒนาการของตัวอ่อน รวมถึงตรวจจับการเต้นของหัวใจตัวอ่อนได้ด้วย ซึ่งจะเร็วกว่าการเต้นของหัวใจแม่สุนัข การอัลตราซาวนด์ไม่เพียงแต่ยืนยันการตั้งท้องเท่านั้น แต่ยังทำให้คาดเดาจำนวนลูกสุนัขในครอกได้ด้วย
เมื่อน้องหมาตั้งท้องได้ประมาณ 25 – 30 วัน การตรวจเลือดสามารถวัดระดับรีแลกซิน หรือก็คือฮอร์โมนที่ผลิตขึ้นเฉพาะในช่วงตั้งท้อง การทดสอบนี้ค่อนข้างแม่นยำ แต่อาจไม่เหมาะกับสุนัขพันธุ์เล็กหรือพันธุ์ทอยที่ลูกสุนัขจำนวนน้อย
ในช่วงไตรมาสสุดท้าย หรือหลังจากผ่านมา 55 วันแล้ว การเอกซเรย์จะกลายเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ ในระยะนี้ เราสามารถมองเห็นโครงกระดูกของลูกสุนัข ทำให้สัตวแพทย์สามารถนับจำนวนลูกสุนัขในท้องได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลนี้มีความสำคัญต่อการเตรียมคลอดมาก ทำให้แน่ใจว่าน้องหมาคลอดลูกสุนัขครบทุกตัว
นอกจากวิธีสังเกตอาการสุนัขท้องแล้ว วิธีการดูแลแม่สุนัขก็สำคัญเช่นกัน สุนัขตั้งท้องควรได้รับการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ และวิธีต่อไปนี้จะช่วยให้แม่สุนัขของคุณมีสุขภาพดีและมีความสุข พร้อมให้กำเนิดลูกสุนัขตัวน้อย ๆ ที่แข็งแรงกับครอบครัว
โภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุนัขที่ตั้งท้อง ในช่วงสองไตรมาสแรก สามารถให้กินอาหารสุนัขโตคุณภาพดีได้ตามปกติ โดยคอยควบคุมปริมาณเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำหนักของแม่สุนัขจะไม่ลดลง เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้าย แม่สุนัขต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น 25 – 50% ควรเปลี่ยนมาให้อาหารสูตรสำหรับลูกสุนัข โดยแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่ให้บ่อยครั้ง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของลูกสุนัขในท้อง หลีกเลี่ยงการให้อาหารเสริม เว้นแต่สัตวแพทย์จะแนะนำ และหลังจากน้องหมาคลอดลูกแล้ว ควรเปลี่ยนมาให้อาหารที่เหมาะสำหรับการให้นมลูก
การออกกำลังกายมีประโยชน์ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในช่วงสองสัปดาห์แรกของการตั้งท้อง เพื่อป้องกันอันตรายในช่วงฝังตัวของตัวอ่อน หลังจากผ่านระยะนี้ไปแล้ว อาจพาแม่สุนัขไปเดินเล่นในระยะทางสั้น ๆ บ่อย ๆ เพื่อรักษาระดับพลังงาน
การดูแลโดยสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอถือเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนผสมพันธุ์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสุนัขได้รับวัคซีนและถ่ายพยาธิครบถ้วนแล้ว เมื่อสุนัขตั้งท้องก็ควรนัดตรวจสุขภาพ เพื่อตรวจกรองโรค พูดคุยถึงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น และการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินเมื่อสุนัขใกล้คลอด สัตวแพทย์จะช่วยพิจารณาว่าจำเป็นต้องผ่าตัดคลอดหรือไม่ หรือสุนัขคลอดลูกตามธรรมชาติได้เอง รวมถึงสามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในช่วงเวลาสำคัญนี้ได้ด้วย
เมื่อถึงเวลาใกล้คลอด สิ่งสำคัญคือต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม นำกล่องที่สะอาดและมีขนาดเหมาะสมไปวางในพื้นที่ที่เงียบและเข้าถึงง่าย ทำให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยและสะดวกสบายในการคลอดลูกสำหรับแม่สุนัข ภายในกล่องอาจปูด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือผ้าบาง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด เพราะในช่วงที่สุนัขคลอดลูกอาจวุ่นวายเล็กน้อย นอกจากนี้ให้เตรียมผ้าขนหนู อุปกรณ์เพิ่มความอบอุ่น และข้อมูลติดต่อสัตวแพทย์ไว้ให้พร้อม คอยดูแลแม่สุนัขตลอดการเดินทางครั้งนี้ด้วยความรักและความเอาใจใส่ แล้วในไม่ช้า คุณจะได้พบกับความสุขแสนน่ารักรายล้อมอยู่รอบตัว!
ลักษณะหมาท้องใกล้คลอด ได้แก่ กระสับกระส่าย ทำรัง และอุณหภูมิร่างกายลดลง รวมถึงมีอาการหายใจหอบและเลียตัวมากขึ้นด้วย หากพบอาการเหล่านี้ ควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการคลอด
ทำให้แม่สุนัขรู้สึกสบายตัวและไม่เครียดเมื่อใกล้จะคลอด สร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและจัดเตรียมกล่องสำหรับคลอดลูกให้พร้อม ปรึกษาสัตวแพทย์หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของสุนัข
ระยะเวลาตั้งท้องของสุนัขโดยทั่วไปคือ 63 วัน หรือประมาณ 2 เดือน ควรสังเกตสัญญาณและอาการของแม่สุนัขอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ช่วงเวลาสำคัญนี้เป็นไปอย่างราบรื่น สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีสังเกตอาการสุนัขท้องและการเตรียมตัวคลอดเพิ่มเติมได้
เริ่มจากเตรียมโภชนาการที่เหมาะสม จัดตารางออกกำลังกายเบา ๆ และพาแม่สุนัขไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำ เมื่อถึงเวลาใกล้คลอด ให้เตรียมกล่องสำหรับคลอดลูกและสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่ก่อให้เกิดความเครียด หมั่นสังเกตอาการและพฤติกรรมของแม่สุนัขอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การตั้งท้องและการคลอดเป็นไปอย่างราบรื่น
ช้อปเลย!
เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพดดิกรี® ได้ที่