ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสุนัขของคุณ
การติดเชื้อราในสุนัข โดยเฉพาะการติดเชื้อราที่ผิวหนังในสุนัข เป็นปัญหาที่พบบ่อยและมักจะทำให้น้องหมารู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก การติดเชื้อที่ผิวหนังในสุนัขเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เชื้อราหรือเชื้อยีสต์ และเชื้อรามาลาสซีเซีย (Malassezia) แม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็มีโอกาสติดซ้ำได้หลายครั้งหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม สุนัขบางสายพันธุ์ เช่น ค็อกเกอร์สแปเนียลและดัชชุนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้มากเป็นพิเศษ
การสังเกตและระบุอาการของการติดเชื้อราในสุนัขตั้งแต่เนิ่น ๆ มีความสำคัญมากต่อการรักษาและการฟื้นตัว โดยอาการที่พบบ่อยที่สุดของการติดเชื้อราในสุนัขมีดังนี้
เราจำเป็นต้องวินิจฉัยและระบุสาเหตุที่แท้จริงของการติดเชื้อเพื่อจัดหาแนวทางรักษาที่เหมาะสม ซึ่งสาเหตุของการติดเชื้อราที่ผิวหนังในสุนัข ได้แก่
ยีสต์เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น การอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้จึงทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนังในสุนัขเพิ่มมากขึ้น
เชื้อราบนผิวหนังของสุนัขสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อราที่ติดต่อได้ง่าย เช่น กลากเกลื้อน (Ringworm) พื้นที่ส่วนกลางและอุปกรณ์ดูแลขนก็เป็นแหล่งแพร่เชื้อราบนสุนัขได้เช่นกัน
สุนัขที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกันจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อราได้ง่ายกว่า เมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายของน้องหมาก็จะต่อสู้กับการเจริญเติบโตของยีสต์และเชื้อราอื่น ๆ ได้ยาก
หากน้องหมามีภาวะที่ก่อให้เกิดน้ำมันบนผิวหนังมากผิดปกติ เช่น มีอาการแพ้หรือระดับฮอร์โมนไม่สมดุล พวกเค้าอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือโรคผิวหนังอักเสบเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นสภาพแวดล้อมที่ยีสต์สามารถเจริญเติบโตได้ดี
การป้องกันโรคผิวหนังจากเชื้อราในสุนัขทำได้โดยรักษาสุขอนามัยที่ดี ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และเข้ารับการดูแลจากสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ คุณสามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและปกป้องสภาพผิวหนังของสุนัขจากเชื้อราชนิดต่าง ๆ ได้ด้วยวิธีเหล่านี้
การอาบน้ำจะช่วยให้ผิวของน้องหมาสะอาดและปราศจากน้ำมันส่วนเกินที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อรา การแปรงขนอย่างสม่ำเสมอก็ช่วยกำจัดเศษซากผิวที่ตายแล้ว ลดความเสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อราบนผิวหนังของสุนัข
หลีกเลี่ยงการปล่อยสุนัขเดินเตร่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น พื้นที่ร้อนชื้น เขตป่า หรือสถานที่ที่มีพืชพรรณเน่าเปื่อย ในกรณีที่ติดโรคกลากเกลื้อนในสุนัข ให้แยกสุนัขที่ติดเชื้อออกเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังคนหรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
การตรวจสุขภาพช่วยให้ตรวจพบสัญญาณเริ่มต้นของการติดเชื้อราบนผิวหนังของสุนัขได้อย่างรวดเร็ว และรักษาได้อย่างทันท่วงที สัตวแพทย์ยังช่วยจัดการปัญหาสุขภาพที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อราบนสุนัขได้ด้วย
อาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนและสมดุลจะช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของสุนัข ทำให้การติดเชื้อที่ผิวหนังในสุนัขลดน้อยลง คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับการให้อาหารเสริมสำหรับสุขภาพผิวและภูมิคุ้มกันโดยรวมเพิ่มเติมได้
การติดเชื้อราในสุนัขอาจส่งผลต่อสภาพผิวหนังไปจนถึงอวัยวะภายใน การระบุประเภทของการติดเชื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษา
อาการ – ขนร่วง คัน ผิวเป็นขุยหรือเป็นสะเก็ด เล็บผิดรูปหรือมีสีคล้ำ
การรักษา – การอาบน้ำด้วยแชมพูยา และ/หรือการใช้ยากำจัดเชื้อราในช่องปาก ดูดฝุ่นและฆ่าเชื้อในบ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อราบนสุนัข
อาการ – คันอย่างรุนแรง ผิวเป็นขุยหรือเป็นสะเก็ด หูติดเชื้อ และผิวมีกลิ่นเหม็น
การรักษา – ยาฆ่าเชื้อหรือยาทาสำหรับกำจัดเชื้อราบนผิวหนัง อาจต้องใช้ร่วมกับยากินในกรณีที่รุนแรง แม้จะไม่ติดต่อ แต่ต้องมีการจัดการอย่างเหมาะสม
อาการ – ไอ น้ำหนักลด หายใจลำบาก มีรอยโรคที่ผิวหนัง และต่อมน้ำเหลืองโต
การรักษา – ยากำจัดเชื้อราในช่องปาก
อาการ – เซื่องซึม ไอ น้ำมูกไหล ปัญหาเกี่ยวกับดวงตา และชัก
การรักษา – จำเป็นต้องกินยากำจัดเชื้อราในช่องปากในระยะยาว การรักษาอาจเป็นเรื่องท้าทายและใช้เวลานานกว่าหนึ่งปี
การรักษาอาศัยการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการใช้ยาที่เหมาะสม ปรึกษาสัตวแพทย์เสมอเพื่อรับแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด พร้อมปกป้องสภาพผิวหนังของสุนัขจากเชื้อรา
การติดเชื้อราในสุนัขที่พบบ่อย ได้แก่ กลากเกลื้อน การติดเชื้อยีสต์ (โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา) และการติดเชื้อทั่วร่างกาย เช่น โรคบลาสโตไมโคสิส (Blastomycosis) โรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcosis) และโรคติดเชื้อราแอสเปอร์จิลโลซิส (Aspergillosis)
สุนัขติดเชื้อราได้จากการสัมผัสสิ่งแวดล้อม การสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือการมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ สภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้นและการใช้ยากดภูมิคุ้มกันก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อราในสุนัข
อาการติดเชื้อราในสุนัข ได้แก่ อาการคันอย่างต่อเนื่อง มีรอยโรคที่ผิวหนัง ขนร่วง และรอยแดง การติดเชื้อราที่ผิวหนังอาจทำให้ผิวเป็นขุยหรือเป็นสะเก็ด ในขณะที่การติดเชื้อทั่วร่างกายอาจทำให้เกิดอาการไอและน้ำหนักลด
การติดเชื้อราในสุนัข เช่น กลากเกลื้อน สามารถแพร่เชื้อไปยังคนและสัตว์อื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อ เช่น โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรามักจะไม่ติดต่อ แต่ก็ควรรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
การติดเชื้อราในการรักษาสุนัขต้องใช้ยากำจัดเชื้อรา ทั้งแบบทาและกิน ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ปรึกษาสัตวแพทย์เสมอเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด พร้อมเรียนรู้วิธีปกป้องสภาพผิวหนังของสุนัขจากเชื้อราชนิดต่าง ๆ ด้วย
ช้อปเลย!
เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพดดิกรี® ได้ที่