สุนัขชิสุมีกี่สายพันธ์?

ตัวเล็กน่ารัก ขนนุ่มฟูน่ากอด หน้าตาจิ้มลิ้ม ทั้งหมดนี้ทำให้ชิสุกลายเป็นที่รักของคนทั่วโลก แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คือเจ้าชิสุมีหลายสายพันธุ์ แต่ละพันธุ์ก็มีลักษณะและคุณสมบัติที่โดดเด่นต่างกัน

“ชิสุ” มีความหมายว่า “สิงโตน้อย” พวกเค้ามีความกระตือรือร้นสูง น่ารักอ่อนหวาน และเป็นมิตรโดยธรรมชาติ ซึ่งลักษณะนิสัยเหล่านี้เป็นจุดร่วมของชิสุทุกสายพันธุ์ มาถึงตอนนี้ คุณอาจสงสัยแล้วว่าชิสุมีกี่สายพันธุ์ แล้วแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะหรือจุดเด่นอย่างไรบ้าง มาค้นหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันได้เลย

ชิสุแต่ละสายพันธุ์

เนื่องจากชิสุมีหลายสายพันธุ์มาก จึงอาจเป็นไปได้ยากที่จะระบุว่าชิสุมีกี่สายพันธุ์ คุณอาจเริ่มด้วยการทำความรู้จักสายพันธุ์ที่พบได้มากที่สุดกันก่อน ซึ่งได้แก่

1. อิมพีเรียล ชิสุ

มีหลายคนเชื่อว่าอิมพีเรียลเป็นสายพันธุ์แท้ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อนี้ไม่ได้รับการรับรองจาก National Kennel Club ความจริงคือพวกเค้าเป็นพันธุ์ผสมและมีขนาดตัวเล็กที่สุดในบรรดาสายพันธุ์ทั้งหมด พวกเค้าเต็มไปด้วยพลัง มีความกระตือรือร้น และต้องการความสนใจตลอดเวลา จุดเด่นของสายพันธุ์นี้คือขนยาวที่ปกคลุมทั่วตัวและบริเวณช่องปาก อิมพีเรียล ชิสุจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างดีเนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะมีอาการผิดปกติทางพันธุกรรม

2. อเมริกัน ชิสุ

จัดว่าเป็นสายพันธุ์แท้ โดยได้รับการยอมรับจาก American Kennel Club ในปี 1969 พวกเค้ามีช่วงอกเล็ก คอสั้น ขายาว ส่วนหัวมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ตาลึกดำสนิท ปากสั้น และขนยาวสวยเหมือนผ้าไหม ชิสุพันธุ์ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมิตร เข้ากับคนได้ง่าย ทำให้พวกเค้าเป็นสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสำหรับทุกครอบครัว

3. ชิสุขนดำ

เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่หายากที่สุด โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีขนสีดำทั่วทั้งตัว ไม่มีแต้มสีขาวเลย ชิสุส่วนใหญ่มักจะมีขนสีดำปะปนกับขนสีอื่น ๆ แต่ขนสีดำเหล่านี้อาจจางหายไปเมื่อพวกเค้าเติบโตขึ้น บางครั้งขนก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาวหรือสีเงิน ซึ่งเกิดจากการตากแดดเป็นเวลานาน ๆ

4. ยูโรเปียน ชิสุ

ชิสุพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นสายพันธุ์แท้จาก United Kennel Club พวกเค้ามีลักษณะคล้ายอเมริกัน ชิสุ แต่แตกต่างกันที่ยูโรเปียน ชิสุมีคอยาวและหัวกลม ดวงตากลมโตและอกกว้าง เจ้าตัวเล็กเหล่านี้มีความกระตือรือร้นและติดเจ้าของมาก

5. ทีคัพ ชิสุ

หากคุณกำลังมองหาน้องหมาตัวเล็กกะทัดรัด ทีคัพ ชิสุอาจเป็นตัวเลือกที่ดีของคุณ พวกเค้าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เล็กที่สุด เรียกว่าตัวเล็กสมชื่อเลย เพราะมีขนาดพอ ๆ กับถ้วยชา อย่างไรก็ตาม ขนาดตัวของพวกเค้าเกิดจากการดัดแปลงพันธุกรรม ทำให้เจ้าจิ๋วเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ

6. เจแปนนิส ชิสุ

เจแปนนิส ชิสุ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ชินสุ” เป็นลูกผสมระหว่างชิสุและเจแปนนิส ชิน พวกเค้าเป็นสุนัขพันธุ์ผสมข้ามชาติ ดูแลค่อนข้างง่าย เรียนรู้การฝึกได้ดี ซึ่งแตกต่างจากชิสุพันธุ์อื่น ๆ ที่มักจะถูกกระตุ้นได้ง่ายเมื่อมีเสียงดัง นอกจากนี้พวกเค้ายังมีความผ่อนคลายสูง อยู่นิ่ง ไม่ว่อกแว่กง่าย และไม่จำเป็นต้องออกกำลังมากนัก

7. ชิสุลายเสือ

ตัวเล็ก เจ้าเสน่ห์ รักอิสระ และเข้ากับคนง่าย เป็นคำนิยามที่บ่งบอกตัวตนของชิสุสายพันธุ์นี้ พวกเค้าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีขนสวยสะดุดตา ลวดลายและเฉดสีที่สวยงามนี้เกิดจากส่วนผสมของขนสีน้ำตาล สีดำ หรือสีทอง อย่างไรก็ตาม ลายริ้วอาจแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์

8. บราวน์ ชิสุ

ชิสุพันธุ์นี้มีผิวสีน้ำตาลช็อกโกแลตหรือสีน้ำตาลแดง สีเหล่านี้เกิดจากการสร้างเม็ดสีผิวไม่ใช่สีของเส้นขน โดยผิวบริเวณรอบดวงตา จมูก ริมฝีปาก และอุ้งเท้าจะมีการไล่สีอย่างสวยงาม สิ่งสำคัญในการเลี้ยงน้องหมาพันธุ์นี้คือคุณต้องจำไว้ว่าผิวของพวกเค้าเป็นสีน้ำตาลไม่ใช่สีขน จึงอาจต้องดูแลใส่ใจเรื่องกรูมมิ่งกันให้มากขึ้น ส่วนในแง่ของสุขภาพ บราวน์ ชิสุไม่มีความเสี่ยงต่อโรคใดมากเป็นพิเศษ

9. ชิสุตาฟ้า

มาถึงสายพันธุ์สุดท้ายกันแล้ว ชิสุพันธุ์นี้มีดวงตาสีฟ้าเป็นจุดเด่น ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีเมลานินและถูกจัดว่าเป็นยีนด้อย เจ้าตัวเล็กเหล่านี้จึงมีความเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับดวงตามากกว่าเพื่อน ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด

สายพันธุ์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนมีพ่อแม่พันธุ์เดียวกันก็คือ ชิสุ ที่เราพบเห็นกันอยู่ทั่วไป หากคุณกำลังวางแผนรับเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ เราขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลของทุกสายพันธุ์ รวมไปถึงวิธีการดูแล พฤติกรรมการกิน และลักษณะนิสัยของพวกเค้าก่อนตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ชิสุจัดว่าเป็นเพื่อนสี่ขาที่น่ารักและเหมาะสำหรับทุกครอบครัว