สุนัขสายพันธุ์ชิสุ (Shih tzu)

สุนัขพันธุ์ชิสุห์มีต้นกำเนิดมาจากทวีปเอเชีย หรือก็คือในประเทศทิเบต โดยสุนัขพันธุ์นี้ถูกมอบเป็นของกำนัลให้กับราชวงศ์จีน ลักษณะทั่วไปคือมีดวงตากลมโต ใบหูห้อย จมูกสั้น และมีขนยาว น้องชิสุห์ อุปนิสัยร่าเริงและเป็นมิตร พวกเค้าจึงเหมาะที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัว เข้ากับทุกคนได้ และเป็นตัวเลือกที่ดีของผู้เลี้ยงมือใหม่ นอกจากนี้ยังเลี้ยงง่าย ไม่จำเป็นต้องออกกำลังบ่อย 

สำหรับน้องชิสุห์ อุปนิสัยของพวกเค้าทั้งน่ารัก อ่อนโยน และอารมณ์ดีอยู่เสมอ สุนัขพันธุ์นี้ปรับตัวได้ดีกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่น หากอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัด อาจทำให้มีปัญหาสุขภาพได้ เจ้าของจึงควรดูแลเอาใจใส่พวกเค้าอย่างใกล้ชิด

ภาพรวมที่สำคัญของชิสุห์:

• น้ำหนัก:

  น้ำหนักโดยเฉลี่ยของสุนัขพันธุ์ชิสุห์จะอยู่ที่ประมาณ 4.5 – 8.1 กก.

• ส่วนสูง:

  ส่วนสูงโดยเฉลี่ยของสุนัขพันธุ์ชิสุห์จะอยู่ที่ประมาณ 8 – 11 นิ้ว แต่สามารถเดินและวิ่งได้อย่างมั่นใจ

• อายุขัย:

  สุนัขพันธุ์ชิสุห์มีอายุขัยอยู่ในช่วง 10 – 18 ปี แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 12 ปี

• ขน:

  ขนยาวสลวยคือเสน่ห์ของสุนัขพันธุ์นี้เลย หากไม่ได้รับการดูแลและตัดแต่ง ขนของพวกเค้าจะยาวไปถึงปลายเท้าเลยทีเดียว

• ฟัน:

  สุนัขพันธุ์ชิสุห์มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน โดยฟันล่างจะยื่นออกมามากผิดปกติ จนเกยกับฟันด้านบน

ลักษณะพฤติกรรมของชิสุห์:

• สุนัขชิสุห์เหมาะสำหรับเลี้ยงในครอบครัว พวกเค้าชอบที่จะได้รับความสนใจจากเจ้าของเป็นอย่างมาก
• สำหรับชิสุห์ อุปนิสัยที่เด่นชัดคือความเป็นมิตร และอ่อนโยนกับเด็ก
• พวกเค้าเป็นสุนัขร่าเริงที่ชอบเล่นสนุก
• ชิสุห์เป็นสุนัขที่กล้าแสดงออก และจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะมีความสุขหรือกำลังหงุดหงิด พวกเค้าจะบอกให้คุณรู้อย่างแน่นอน
• ชิสุห์เป็นสุนัขที่เข้ากับคนและสัตว์ได้ดี เป็นมิตรมาก
• พวกเค้ามีพลังงานเต็มเปี่ยม และพร้อมจะเล่นสนุกกับทุกคน

ลักษณะและอุปนิสัยของสุนัขชิสุห์:

ลักษณะทางกายภาพ

– ชิสุห์เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก พาไปเที่ยวไหนก็ง่าย สะดวกสบาย พวกเค้าทั้งน่ารัก อ่อนโยน และไม่เห่าเสียงดัง สุนัขพันธุ์ชิสุห์มีสีขนหลากหลาย โดยมีมากถึง 10 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำล้วน สีขาวล้วน สีเทาหม่น สีน้ำตาลแดง สีเทา สีน้ำตาลทอง สีน้ำตาลช็อกโกแลต สีแซมกันสองสี ขนสองสี และขนสามสี นอกจากสีขนแล้ว ลวดลายก็จะแตกต่างกันออกไป โดยสามารถจำแนกลักษณะได้ดังนี้:

• ลายปลอกคอ หรือ ผ้าพันคอ

  – จะเกิดขึ้นกับน้องที่มีขนสีเดียวทั่วตัว แต่มีขนสีขาวแซมบริเวณรอบคอ จนดูเหมือนว่ากำลังใส่ปลอกคอหรือผ้าพันคออยู่

• ลายเปลวไฟ หรือเส้นริ้ว

  – ลักษณะคือจะมีเส้นริ้วสีขาวอยู่ระหว่างดวงตา โดยเส้นอาจลากยาวไปจนถึงคอหรือหลัง แต่จะอยู่ตรงกลางของทุกส่วนเสมอ

• ลายเส้นแถบ

  – ลักษณะคล้ายลายเปลวไฟ แต่ส่วนขนที่มีสีขาวจะขนาดใหญ่กว่า และจะขยายไปถึงบริเวณหัว หลัง รวมถึงปกคลุมไปทั่วลำคอด้วย

• ลายทักซิโด้

  – ทั่วลำตัวจะปกคลุมด้วยขนสีเดียว แต่บริเวณหน้าอกและอุ้งเท้าจะมีสีขาว ทำให้ดูเหมือนว่ากำลังใส่ชุดสูททักซิโด้อยู่นั่นเอง

• ลายอานม้า

  – ลักษณะของลายนี้คือมีแต้มสีขาวอยู่บริเวณกลางหลัง โดยมีรูปร่างคล้ายกับอานม้า

นอกจากสีขนและลวดลายแล้ว สุนัขพันธุ์ชิสุห์จะมีแต้มสีแบบต่าง ๆ ซึ่งมีเพียง 4 ลักษณะดังต่อไปนี้ ที่ได้รับการยอมรับจากสมาคมอเมริกัน เคนเนล (American Kennel Club):

• แต้มดำ
• ลายหน้ากากสีดำ
• แต้มน้ำตาล
• แต้มขาว

เรากำลังเลี้ยงชิสุห์พันธุ์แท้หรือพันธุ์ผสมกันนะ? เช็กเลย 5 ลักษณะทั่วไปที่พบได้ของสุนัขพันธุ์ชิสุห์

• ขนาด – ชิสุห์จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขพันธุ์เล็ก โดยจะมีน้ำหนักตัวประมาณ 4.5 – 1.8 กก.
• หาง – หางม้วนคือจุดเด่นของน้องหมาพันธุ์นี้เลย โดยหางจะโค้งงอมาถึงหลัง
• ใบหู – มีใบหูขนาดใหญ่ สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย และมีขนหนาปกคลุม
• ดวงตา – มีดวงตากลมโต และมักจะมีสีเข้ม
• จมูก – เป็นอีกจุดที่สังเกตเห็นได้ง่าย โดยจะมีลักษณะแบนและมีสีดำสนิท

พฤติกรรม

– สำหรับน้องหมาชิสุห์ อุปนิสัยที่โดดเด่นที่สุดคือความเป็นมิตร มีเพียงไม่กี่อย่างที่จะทำให้สุนัขพันธุ์นี้อารมณ์เสีย และน้อยครั้งที่พวกเค้าจะแสดงอาการหงุดหงิดออกมา ชิสุห์ขึ้นชื่อเรื่องความอ่อนโยน ไม่จู้จี้จุกจิก ต้องการความรัก ชอบกอด และคลอเคลียมาก ซึ่งทำให้พวกเค้าเป็นเพื่อนแก้เหงาที่ดี นอกจากนี้ชิสุห์ยังไม่ค่อยน้ำลายไหล แต่อาจเห่าบ่อยครั้งเพื่อเรียกร้องความสนใจ เพื่อแจ้งเตือนสัญญาณอันตราย หรือด้วยเหตุผลประการอื่น

การดูแลสุนัขชิสุห์:

• สุขภาพ

  – สุนัขพันธุ์ชิสุห์มีกะโหลกศีรษะขนาดใหญ่และแบน รวมถึงมีช่วงปากและจมูกที่สั้น ทำให้หายใจได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากไม่มีเหงื่อออกเหมือนคนเรา บวกกับระบบทางเดินหายใจผิดปกติ สุนัขชิสุห์จึงมักไม่ค่อยหอบเสียงดังเหมือนสุนัขพันธุ์อื่น นอกจากนี้ยังมีรูจมูกตีบแคบ ส่งผลให้หายใจลำบากและไม่สามารถสูดหายใจเข้าลึก ๆ ได้ ในช่วงหน้าร้อน เจ้าของควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าเตรียมน้ำดื่มเพียงพอ และควรงดออกกำลังกายไปก่อน สุนัขพันธุ์นี้ไม่ชอบอากาศหนาว และมีโอกาสป่วยได้ง่ายเพราะสภาพอากาศแบบนี้ ไม่ใช่แค่ปัญหาระบบทางเดินหายใจเท่านั้นที่น่าเป็นห่วง แต่ชิสุห์มักจะมีอาการติดเชื้อที่ดวงตาและใบหูด้วย ผิวก็บอบบาง เสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ได้ง่าย เมื่อเข้าสู่ช่วงสูงวัย น้องหมาพันธุ์ชิสุห์มีแนวโน้มที่จะเป็นต้อกระจก และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น

• กรูมมิ่ง

  – ถึงแม้ว่าการดูแลสุนัขพันธุ์นี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เจ้าของก็ไม่ควรละเลย ควรกรูมมิ่งและเล็มขนให้พวกเค้าเป็นประจำ รวมถึงควรแปรงขนบ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ขนพันกัน และไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพเส้นขนไม่แข็งแรง โดยขนที่ปกคลุมบริเวณหัวจะยาวเร็วมาก จึงจำเป็นต้องเล็มขนออกเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ขนแยงตาพวกเค้า เจ้าของบางคนก็ชอบมัดจุกผูกโบว์ให้พวกเค้า จนกลายเป็นทรงขนสุดน่ารัก ทั้งนี้สุนัขพันธุ์ชิสุห์มีสีขนที่หลากหลาย แต่สีที่พบได้บ่อยจะมีสีดำ สีขาว และสีเทา

• การออกกำลังกาย

  – ด้วยสรีระที่ไม่เอื้ออำนวยของสุนัขชิสุห์ เมื่อพาไปออกกำลังกาย คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าอากาศไม่ร้อนจนเกินไป และกิจกรรมที่ทำจะต้องไปหนักหน่วงจนเกินไปด้วย การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับสุนัขพันธุ์ชิสุห์คือ การเดินเล่น 2 ครั้งต่อวัน รอบละประมาณ 20 นาที ในช่วงหน้าร้อนแนะนำให้เตรียมน้ำดื่มขณะออกไปเดินเล่นด้วย ส่วนในช่วงหน้าหนาว แนะนำให้ใส่เสื้อเพื่อให้ร่างกายของพวกเค้าอบอุ่น

• โภชนาการ

  – สำหรับสุนัขชิสุห์อาหารที่พวกเค้าต้องการจะแตกต่างไปตามอายุและกิจกรรมที่พวกเค้าทำในแต่ละวัน เนื้อไก่และไข่ถือเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญของพวกเค้า แต่ช็อกโกแลต ไข่ดิบ เนื้อดิบ หัวหอม และกระเทียมคืออาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้พวกเค้ามีสุขภาพดีแข็งแรงในทุกวัน เลือกให้อาหารเม็ด เพดดิกรี® มินิ โดยปริมาณที่แนะนำคือ 4/5 - 1 ถ้วย หรือผสมอาหารเม็ด 77 – 101 กรัม เข้ากับอาหารเปียก  1/2 ถ้วย
  
   
• ตารางที่ 1. ตารางแนะนำการให้อาหารเม็ด เพดดิกรี^® มินิ สำหรับสุนัขพันธุ์ชิสุห์

• การฝึก

  – นอกจากขนยาวสลวยแล้ว นิสัยดื้อรั้นก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสุนัขพันธุ์ชิสุห์ การฝึกพวกเค้าต้องใจเย็นและใช้ความอดทนสูง คุณสามารถฝึกโดยการใช้สายจูง และการให้ขนมเพื่อกระตุ้นพวกเค้าได้ หากน้องหมาของคุณไม่ได้รับการฝึกเข้าสังคม เมื่อต้องเจอผู้คนหรือสุนัขตัวอื่นแบบไม่ทันตั้งต้ว พวกเค้าอาจแสดงอาการหวาดกลัวออกมาได้ แนะนำให้ฝึกเข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อช่วยปรับพฤติกรรม และสร้างความคุ้นเคยในการทำความรู้จักกับผู้คนในละแวกใกล้เคียง

ประวัติความเป็นมาของสุนัขพันธุ์ชิสุห์:

สุนัขพันธุ์ชิสุห์มีต้นกำเนิดมาจากทิเบตเมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้ว และมีประวัติเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ โดยพวกเค้ารับหน้าที่เป็นสุนัขเฝ้ายามของพระราชวัง อีกทั้งยังเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ชนชั้นสูงและเหล่าราชวงศ์ของจีน มากถึงขั้นว่ามีกฎห้ามขายหรือแลกเปลี่ยนสุนัขพันธุ์ชิสุห์โดยเด็ดขาด ทั้งนี้ราชวงศ์จีนได้ตั้งชื่อเรียกให้ชิสุห์ว่าเป็น 'สุนัขดอกเบญจมาศ' เพราะขนบริเวณใบหน้าคล้ายกับกลีบดอกไม้ สุนัขพันธุ์นี้มีความเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา และได้รับการเพาะพันธุ์ให้มีลักษณะคล้ายสิงโตตัวน้อยโดยพระทิเบต ทั้งนี้มีตำนานเล่าว่า เทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ของชาวพุทธในทิเบตออกเดินทางไปพร้อมกับสุนัขที่คล้ายกับสิงโตตัวเล็ก แต่ที่พิเศษคือสุนัขตัวนี้สามารถแปลงร่างเป็นสิงโตตัวใหญ่ได้ ในปี 1934 สุนัขพันธุ์ชิสุห์ และพันธุ์ลาซา แอปโซ ทำให้เกิดความสับสนมากมายในประเทศอังกฤษ ทั้งสองสายพันธุ์ถูกประกาศว่ามีความแตกต่างกัน จุดสำคัญที่สร้างความแตกต่างคือช่วงปากของพวกเค้า โดยลาซา แอปโซจะมีช่วงปากที่ยาวกว่า ดวงตาเล็กกว่า รวมถึงลักษณะขนก็ต่างกัน ลาซา แอปโซจะมีขนยาวตรง ขณะที่ชิสุห์มีขนค่อนข้างหยักศก ตัวอย่างคนดังที่เลี้ยงชิสุห์ เช่น นิโคล ริชชี่, มารายห์ แครี, บียอนเซ่, โคลิน ฟาร์เรล, บิล เกตส์ และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จากราชวงศ์อังกฤษ