โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคร้ายแรงชนิดหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แม้ว่าสัตว์เลี้ยงในบ้านจะมีโอกาสติดโรคนี้ได้น้อย แต่ก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ พ่อแม่น้องหมาทุกคนจึงควรพาเจ้าตัวน้อยไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้เรียบร้อย
อาการของโรคพิษสุนัขบ้าในลูกสุนัขจะไม่แสดงออกอย่างชัดเจนจนกว่าระยะที่รุนแรง แต่ไม่ต้องกังวล การทำความเข้าใจลักษณะอาการของโรคจะช่วยให้คุณช่วยชีวิตพวกเค้าได้ก่อนที่จะสายเกินไป โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่ยังไม่มียารักษา เมื่อติดเชื้อแล้วจะมีโอกาสเสียชีวิตสูง การป้องกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
โรคพิษสุนัขบ้าคืออะไร และลูกสุนัขที่ติดเชื้อจะมีอาการอะไรบ้าง?
โรคพิษสุนัขบ้าคือการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบประสาทของสัตว์และของมนุษย์ด้วย สัตว์ที่ติดเชื้อสามารถแพร่โรคนี้ผ่านทางน้ำลาย เช่น การกัดหรือข่วน อาการที่พบบ่อยของโรคคือกล้ามเนื้อกระตุก ปวดศีรษะ มีไข้ และเป็นอัมพาต โรคพิษสุนัขบ้าเป็นอันตรายถึงชีวิต วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกหนีจากภัยคุกคามนี้คือการฉีดวัคซีนป้องกัน
แม้ว่าลูกสุนัขจะติดโรคพิษสุนัขบ้าได้เหมือนกับสัตว์อื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้มีความเสี่ยงสูง เว้นแต่ว่าจะสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อหรืออาศัยอยู่ในบริเวณที่มีการติดเชื้อบ่อย
อาการของโรคพิษสุนัขบ้าในลูกสุนัข
หากสงสัยว่าลูกสุนัขมีโอกาสติดเชื้อพิษสุนัขบ้า ควรสังเกตอาการและพฤติกรรมของพวกเค้าอย่างใกล้ชิด ติดต่อสัตวแพทย์ทันทีหากลูกสุนัขเริ่มแสดงอาการกระสับกระส่าย ก้าวร้าว หรือพบว่าพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เช่น จากที่เคยกระตือรือร้นและเล่นอยู่เสมอ แต่จู่ ๆ ก็นิ่งและเคลื่อนไหวน้อยลง นอกจากนี้ควรสังเกตอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น กลืนลำบาก ชัก มีไข้ น้ำลายไหลมากเกินไป หรือเป็นอัมพาต
หากสุนัขของคุณติดเชื้อพิษสุนัขบ้า พวกเค้าจะเริ่มมีปฏิกิริยาทางลบต่อแสง การเคลื่อนไหว และเสียง สุนัขที่ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้ามักจะซ่อนตัวในที่มืดและหลีกเลี่ยงการถูกรบกวน อีกหนึ่งอาการที่พบบ่อยคือน้ำลายฟูมปาก อาจเป็นเพราะน้ำลายไหลมากเกินไป เมื่ออาการเหล่านี้เริ่มทุเลาลง เราจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ ดังนั้น ทันทีที่สุนัขของคุณถูกสัตว์อื่นกัด ให้พาไปหาสัตวแพทย์เพื่อความแน่ใจ
สาเหตุของโรคพิษสุนัขบ้าในลูกสุนัข
สาเหตุที่ทำให้ลูกสุนัขของคุณติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ มีดังนี้
- การกัด – สัตว์ที่ติดเชื้อมักมีอาการก้าวร้าวและมีแนวโน้มที่จะกัด น้องหมาของคุณอาจติดโรคพิษสุนัขบ้าได้โดยการสัมผัสกับสุนัขหรือสัตว์ที่ติดเชื้อ
- สัมผัสน้ำลาย – หากโดนสัตว์ที่ติดเชื้อเลีย น้องหมาของคุณก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกัน
- สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย – ลูกสุนัขที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีหรือไม่ถูกสุขอนามัยมีความเสี่ยงสูงที่จะติดโรคพิษสุนัขบ้า
- ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน – การฉีดวัคซีนช่วยป้องกันโรคร้ายแรงได้ ลูกสุนัขอาจมีความเสี่ยงมากขึ้นหากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน
- การแพร่เชื้อโดยกำเนิด – หากสุนัขที่ตั้งท้องเป็นโรคพิษสุนัขบ้า สามารถส่งต่อไปยังลูกสุนัขตั้งแต่แรกเกิดได้
การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในลูกสุนัขทำได้อย่างไร?
ทางที่ดีควรพาลูกสุนัขไปตรวจหาโรคก่อนที่จะแสดงอาการใด ๆ และวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคนี้คือการฉีดวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ลูกสุนัขของคุณควรได้รับการฉีดวัคซีนหลายครั้งตามช่วงอายุต่อไปนี้
- เข็มแรก – อายุ 12 – 16 สัปดาห์
- เข็มสอง – อายุ 1 ปี
- เข็มกระตุ้น – ทุก ๆ 1 – 3 ปี
ลูกสุนัขยังมีโอกาสติดเชื้อโรคร้ายอื่น ๆ อีกมากมาย ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อกำหนดแนวทางการฉีดวัคซีนที่เหมาะสม นอกจากนี้คุณควรดูแลเจ้าตัวน้อยอย่างใกล้ชิด ใส่สายจูงทุกครั้งที่พาไปเดินเล่น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ตัวอื่นที่ไม่คุ้นเคย
