ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสุนัขของคุณ
น้องหมาก็มีอาการเจ็บป่วยเหมือนคนเรา และบางครั้งมันก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหันด้วย พ่อแม่ทุกคนจึงควรเรียนรู้ลักษณะอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการสังเกตพฤติกรรมผิดปกติ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสุนัขก็เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีเช่นกัน สำหรับพ่อแม่มือใหม่ คุณอาจประสบปัญหาในการทำความเข้าใจอุณหภูมิร่างกายสุนัข อุณหภูมิปกติสุนัขควรอยู่ที่เท่าใด และคงไม่แน่ใจว่าควรตรวจสอบอย่างไร เราจะช่วยไขข้องใจให้คุณเอง!
อุณหภูมิปกติสุนัขอยู่ระหว่าง 38.3°C – 39.2°C (101°F – 102.56°F) แต่สำหรับลูกสุนัขและลูกสุนัขแรกเกิดอาจมีอุณหภูมิต่ำกว่านี้เล็กน้อย หรือประมาณ 34°C – 36°C (94°F – 97°F) แนะนำให้วัดอุณหภูมิร่างกายสุนัขเป็นครั้งคราวเพื่อตรวจเช็กสุขภาพเบื้องต้น
ขอบอกเลยว่าวิธีวัดอุณหภูมิร่างกายของสุนัขและของคนนั้นแตกต่างกันมาก เราอาจสัมผัสหน้าผากหรือคอเบา ๆ เพื่อวัดไข้ แต่วิธีนี้ไม่ได้ผลกับสุนัข การวัดอุณหภูมิในช่องปากก็ไม่ใช่วิธีที่ดี เพราะน้องหมาอาจกัดเทอร์โมมิเตอร์จนเสียหายได้ วิธีที่เหมาะสมที่สุดคือการตรวจวัดอุณหภูมิทางทวารหนักของสุนัข
ก่อนที่คุณจะเริ่มภารกิจสุดท้าทายนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีไอเทมจำเป็นครบถ้วน ซึ่งได้แก่เทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัล (ควรเลือกเทอร์โมมิเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อสุนัขโดยเฉพาะ) และปิโตรเลียมเจลลี คุณอาจต้องการผู้ช่วยมือดีสักคนด้วย เผื่อในกรณีที่น้องหมาเกิดอาการต่อต้านในระหว่างวัดอุณหภูมิ แนะนำให้เลือกคนที่คุ้นเคยกับน้องหมาเป็นอย่างดี เพราะลำพังแค่การตรวจก็สร้างความไม่สบายใจมากพอแล้ว หากต้องอยู่กับบุคคลที่ไม่คุ้นเคยอาจทำให้น้องหมารู้สึกกังวลมากขึ้น
เมื่อคุณเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ลงมือได้เลย เริ่มต้นด้วยการทาปิโตรเลียมเจลที่ปลายเทอร์โมมิเตอร์ และขอให้ผู้ช่วยจับน้องหมาให้นิ่งอย่างอ่อนโยน จากนั้นให้คุณสอดเทอร์โมมิเตอร์เข้าไปในทวารหนักของน้องหมาประมาณ 1 – 2 นิ้ว กดปุ่มบนเทอร์โมมิเตอร์แล้วรอผล หากอุณหภูมิเฉลี่ยของสุนัขอยู่ระหว่าง 37°C – 38.9°C (98.6°F – 102.02°F) ก็ไม่ต้องกังวล
การตรวจวัดอุณหภูมิทางทวารหนักอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ แต่มันเป็นวิธีตรวจเช็กสุขภาพและอุณหภูมิร่างกายของสุนัขที่มีประสิทธิภาพ
หากคุณไม่มีเทอร์โมมิเตอร์สำหรับสุนัข คุณอาจใช้เทอร์โมมิเตอร์ของคนแทนได้ และนี่คือวิธีวัดอุณหภูมิสุนัขด้วยเทอร์โมมิเตอร์ของคนอย่างถูกต้อง
ควรเช็ดทำความสะอาดเทอร์โมมิเตอร์ก่อนใช้งาน เพื่อฆ่าเชื้อและป้องกันค่าคลาดเคลื่อน หูเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับสองรองจากทวารหนัก ให้ค่อย ๆ สอดเทอร์โมมิเตอร์ในแนวนอนเข้าไปในช่องหูของน้องหมาโดยทำมุม 90° กับศีรษะ อย่าฝืนถ้าน้องหมาพยายามต่อต้าน หากน้องหมามีอาการติดเชื้อที่หู ควรหลีกเลี่ยงวิธีนี้ เพราะจะทำให้น้องหมาเจ็บปวดมาก
การตรวจสุขภาพและการวัดอุณหภูมิเป็นประจำมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัข หากอุณหภูมิของสุนัขสูงเกิน 39.4°C (103°F) หรือลดลงต่ำกว่า 37.2°C (99°F) พวกเค้าจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์ทันที สัญญาณความเจ็บป่วยต่าง ๆ เช่น อ่อนเพลีย อาเจียน หรือเบื่ออาหาร ก็ไม่ควรมองข้าม การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมก็เช่นกัน ทั้งความก้าวร้าวที่เพิ่มขึ้นหรือการเก็บตัวที่ผิดปกติ สุนัขพันธุ์หน้าสั้น (Brachycephalic) เช่น สุนัขบูลด็อก มักจะมีแนวโน้มที่จะมีภาวะที่อุณหภูมิร่างกายสูงกว่าระดับปกติ ผู้เลี้ยงจึงควรดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วงที่อากาศร้อน คอยสังเกตอาการผิดปกติและอุณหภูมิร่างกายของน้องหมาอยู่เสมอ
ทั้งหมดนี้คือวิธีตรวจสอบอุณหภูมิสุนัขของคุณในแบบต่าง ๆ แล้ว เลือกใช้วิธีการตามความเหมาะสมกันได้เลย และอย่าลืมแบ่งปันข้อมูลนี้กับเพื่อน ๆ คนรักน้องหมากันด้วยนะ
ควรใช้เทอร์โมมิเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อสุนัขโดยเฉพาะ เช่น เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ทางหูหรือทางทวารหนัก คุณอาจใช้เทอร์โมมิเตอร์ของคนแทนได้ แต่ก็ไม่ควรใช้ร่วมกันบ่อย
การสัมผัสกับน้ำเย็นหรือตัวเปียก การบาดเจ็บ การใช้ยาบางชนิด และภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำกว่าปกติ อาจทำให้อุณหภูมิร่างกายในสุนัขต่ำลงได้
คุณสามารถใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิของสุนัขโดยเฉพาะ (แบบวัดทางหูหรือทวารหนัก) หรืออาจใช้เทอร์โมมิเตอร์ของคนก็ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกันบ่อย ๆ
สำหรับวิธีตรวจอุณหภูมิร่างกายสุนัขของคุณ ให้เริ่มจากทาปิโตรเลียมเจลที่ปลายเทอร์โมมิเตอร์แล้วค่อย ๆ สอดเข้าไปในทวารหนักของสุนัขประมาณ 1 – 2 นิ้ว ในกรณีที่คุณใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัล ให้กดปุ่มบนเทอร์โมมิเตอร์แล้วรอผล
อุณหภูมิปกติสุนัขจะอยู่ระหว่าง 37°C – 38.9°C ส่วนลูกสุนัขและลูกสุนัขแรกเกิดอาจมีอุณหภูมิต่ำกว่านี้เล็กน้อย หรือประมาณ 34°C – 36°C (94°F – 97°F)