สุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)

ข้อมูลเบื้องต้นของปอมเมอเรเนียน:

สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนมีต้นกำเนิดมาจากทวีปยุโรป โดยเชื่อกันว่าน้องหมาพันธุ์นี้มาจากแคว้นปอมเมอเรเนีย ซึ่งอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโปแลนด์ และทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนีในปัจจุบัน โดยสุนัขปอมเมอเรเนียนถูกจัดอยู่ในกลุ่มของสุนัขพันธุ์เล็ก

สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนมีบรรพบุรุษเป็นสุนัขพันธุ์เยอรมัน สปิตซ์ ลักษณะโดดเด่นคือขนปุกปุย แน่นทึบ และยาวคลุมทั่วตัว พวกเค้ามีดวงตาเล็ก จมูกสั้น และมีใบหูตั้งตรงที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน

สำหรับสุนัขปอมเมอเรเนียน อุปนิสัยของพวกเค้าค่อนข้างเป็นมิตร เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน และชอบทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นที่สุด การเดินเล่นเป็นประจำจะช่วยให้พวกเค้ามีสุขภาพที่แข็งแรง ทั้งนี้เราสามารถเลี้ยงปอมเมอเรเนียนในสภาพอากาศหนาวเย็นได้ เนื่องจากขนที่หนาและแน่นของพวกเค้า แต่ในทางกลับกัน หากเลี้ยงน้องในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น เจ้าของอาจต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ และด้วยขนาดตัวที่เล็กกะทัดรัด การเลี้ยงปอมเมอเรเนียนในพื้นที่จำกัดอย่างอะพาร์ตเมนต์หรือบ้านที่ไม่มีสวนจึงไม่ใช่ปัญหา นอกจากนี้พวกเค้ายังพึ่งพาตัวเองได้ค่อนข้างดี เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและผู้เลี้ยงที่มีตารางงานแน่น

 

ภาพรวมที่สำคัญของปอมเมอเรเนียน:

• น้ำหนัก:

  น้ำหนักโดยเฉลี่ยของสุนัขปอมเมอเรเนียนจะอยู่ที่ประมาณ 1.3 – 3.1 กก.

• ส่วนสูง:

  ส่วนสูงโดยเฉลี่ยของสุนัขปอมเมอเรเนียนจะอยู่ที่ประมาณ 6 – 7 นิ้ว

• อายุขัย:

  สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 12 – 16 ปี

• ขน:

  มีลักษณะขน 2 ชั้น ขนยาว หนา และมีการผลัดขนเป็นประจำ

อุปนิสัยและลักษณะพฤติกรรมของปอมเมอเรเนียน:

• สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน อุปนิสัยร่าเริง สดใส มีชีวิตชีวา
• พวกเค้าเป็นมิตร และชอบพบปะผู้คน
• พวกเค้าอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่น
• สุนัขปอมเมอเรเนียนค่อนข้างหวงอาณาเขต และเป็นสุนัขที่เห่าบ่อย เห่าเก่ง
• พวกเค้าเป็นสุนัขที่เฉลียวฉลาด และสามารถฝึกได้ง่าย

ลักษณะของสุนัขปอมเมอเรเนียน:

ลักษณะทางกายภาพ

– ปอมเมอเรเนียนเป็นน้องหมาตัวเล็กขนฟูแสนน่ารัก บวกกับหน้าตาที่คล้ายคลึงสุนัขจิ้งจอก และดวงตากลมรีคล้ายถั่วอัลมอนด์ ทำให้พวกเค้าขโมยหัวใจบรรดาทาสหมาได้อย่างง่ายดายตั้งแต่แรกเห็น น้องปอมเมอเรเนียนมีสีขนที่หลากหลาย โดยสีน้ำตาลแดงและส้มเป็นสีที่พบได้บ่อยที่สุด ส่วนสีอื่นที่สามารถพบได้ คือสีดำ สีน้ำตาล สีช็อกโกแลต สีเทาหม่น สีดำผสมสีแทน สีน้ำตาลผสมสีแทน สีครีม สีครีมแซมดำ สีแดงหรือสีส้มแซมดำ และสีขาว ทั้งนี้สุนัขปอมเมอเรเนียนที่ขนสองสีปะปนกัน จะเรียกว่า ‘particoloured’ หรือสีแซมกันสองสี หางของน้องปอมเมอเรเนียนเป็นอีกหนึ่งจุดที่โดดเด่น เพราะพวกเค้ามีขนหางที่ทั้งหนาและแน่นเป็นพวง แต่จำเป็นต้องเล็มขนเป็นประจำ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เรากำลังเลี้ยงปอมเมอเรเนียนพันธุ์แท้หรือพันธุ์ผสม? เราสามารถเช็กลักษณะทั่วไปของสุนัขปอมเมอเรเนียได้จากลิสต์ด้านล่างนี้

• มีขนาดตัวเล็กกะทัดรัด หลังสั้น
• มีขนหางแน่น เป็นพวง
• มีจมูกคล้ายสุนัขจิ้งจอก
• มีขนยาวปกคลุมบริเวณคอและหน้าอก

พฤติกรรม

– ความช่างสงสัยคือนิสัยที่บ่งบอกความเป็นปอมเมอเรเนียนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พวกเค้ายังมีพลังงานล้นเหลือ แต่ไม่ถึงขึ้นอยู่ไม่สุขนะ พวกเค้าชอบเอาใจเจ้าของ และพร้อมจะทำตามคำสั่งแบบทันทีทันใด สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนถือเป็นสุนัขที่ร่าเริง ชอบเล่น แต่จะไม่ยุ่งวุ่นวาย พวกเค้าเป็นนักสังเกตตัวยง และชอบสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอยู่เสมอ ซึ่งนั่นทำให้พวกเค้าเห่าเก่งมาก ถึงแม้ว่าน้องปอมเมอเรเนียนจะมีนิสัยเป็นมิตร แต่ก็ไม่แนะนำให้เลี้ยงกับเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อาจยังไม่เข้าใจความต้องการและนิสัยของพวกเค้าดี หากปอมเมอเรเนียนโดนรบกวนมาก ๆ พวกเค้าอาจตอบโต้ด้วยการกัด

การดูแลสุนัขปอมเมอเรเนียน:

หากคุณต้องการเลี้ยงปอมเมอเรเนียน เรื่องราวเหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรรู้:

• สุขภาพ

  – สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนเป็นสายพันธุ์ที่มีสุขภาพโดยรวมดี แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน สุนัขพันธุ์นี้มีโอกาสเป็นโรคไทรอยด์และโรคลมชัก ซึ่งอาจนำไปสู่อาการชักได้ นอกจากนี้ปอมเมอเรเนียนยังมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาดวงตา ไม่ว่าจะเป็นต้อกระจก และท่อน้ำตาอุดตัน ปัญหาสะบ้าเคลื่อนก็พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์นี้ รวมไปถึงปัญหาสุขภาพเหงือกและฟัน ซึ่งส่งผลให้สูญเสียฟันก่อนวัยอันควร ด้วยปัญหาทั้งหมดที่ว่ามานี้ การตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรมองข้าม

• กรูมมิ่ง

  – ปอมเมอเรเนียนมีขน 2 ชั้น คือมีขนชั้นในหนา แน่นทึบ แต่อ่อนนุ่ม และขนชั้นนอกยาว เรียบ และเหยียดตรง ด้วยความที่มีขนหนาและเยอะ หลายคนจึงเข้าใจผิดว่าการกรูมมิ่งให้น้องปอมเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ความเป็นจริงนั้น มันค่อนข้างทำได้ง่าย เนื่องจากขนาดตัวที่เล็ก การแปรงขนทั่วตัว 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว โดยขอแนะนำให้เลือกใช้แปรงที่มีขนแข็งปานกลางเพื่อให้เข้าถึงผิวหนังและขนชั้นในได้ เมื่อพูดถึงการอาบน้ำแล้ว น้องปอมต้องอาบน้ำ 2 – 3 ครั้งต่อเดือน แต่จำเป็นต้องแปรงฟันทุกวัน เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในช่องปาก

• การออกกำลังกาย

  – สุนัขปอมเมอเรเนียนไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง แต่แนะนำให้พาพวกเค้าออกไปเดินเล่นระยะทางสั้น ๆ ประมาณ 2 ครั้งต่อวัน หรืออาจเพิ่มระยะทางมากขึ้นก็ได้ตามความต้องการ เพราะการได้มองเจ้าตัวน้อยเดินเล่นบนท้องถนนก็สร้างความเพลิดเพลินไปอีกแบบ ทั้งนี้ปอมเมอเรเนียนเหมาะกับสภาพอากาศที่เย็นสบายมากกว่าอากาศร้อน เพราะพวกเค้ามีขนหนาถึงสองชั้น

• โภชนาการ

  – สำหรับสุนัขปอมเมอเรเนียนอาหารที่พวกเค้าต้องการจะแตกต่างจากสุนัขพันธุ์ใหญ่ โดยแนะนำให้แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 2 มื้อต่อวัน และควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของพวกเค้าให้ดียิ่งขึ้น นอกจากอาหารแล้ว อย่าลืมเตรียมน้ำสะอาดให้พวกเค้ากันด้วยหล่ะ

• การฝึก

  – การฝึกน้องปอมเมอเรเนียนค่อนข้างทำได้ง่าย แม้จะเฉลียวฉลาดแต่พวกเค้าก็หัวดื้อไม่ใช่น้อยเลย ทำให้การฝึกทริคใหม่ ๆ หรือฝึกทำตามคำสั่งต้องใช้เวลามากหน่อย อีกทั้งพวกเค้ามักจะจดจ่อกับการฝึกได้ไม่นาน การฝึกแต่ละครั้งจึงควรใช้เวลาสั้น ๆ หากคุณฝึกการเข้าสังคมให้ตั้งแต่ยังเด็ก สุนัขปอมเมอเรเนียนจะเข้าได้ดีกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในบ้าน และอย่าลืมกำหนดกฎเกณฑ์ในการอยู่บ้านให้ชัดเจน เพราะพวกเค้าอาจสร้างปัญหากวนใจให้คุณได้

ประวัติความเป็นมาของสุนัขปอมเมอเรเนียน:

เมื่อสืบย้อนไปถึงต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน เราจะพบว่าบรรพบุรุษของพวกเค้าคือสุนัขลากเลื่อนจากแลปแลนด์และไอซ์แลนด์ แล้วได้เดินทางมาแคว้นปอมเมอเรเนีย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณประเทศโปแลนด์และเยอรมนีในปัจจุบัน เพราะความโปรดปรานของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งราชวงศ์อังกฤษ การเลี้ยงปอมเมอเรเนียนจึงเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยในช่วงปลายทศวรรษที่ 1800 สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเริ่มเพาะพันธุ์สุนัขปอมเมอเรเนียน และได้รับชัยชนะจากการแข่งขันเพาะพันธุ์อีกด้วย อีกหนึ่งข่าวลือเกี่ยวกับปอมเมอเรเนียน คือเป็นสุนัขที่รอดชีวิตจากการอับปางของเรือไททานิค ตัวอย่างคนดังที่เลี้ยงปอมเมอเรเนียน เช่น ปารีส ฮิลตัน, ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, เคลลี่ ออสบอร์น, นิโคล ริชชี่, ฮิลารี ดัฟฟ์, เกวน สเตฟานี และคีอานู รีฟส์