ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสุนัขของคุณ
ด้วยขนสั้น หูตก และดวงตากลมโตที่สามารถละลายใจใครหลายคนได้ หมาบีเกิ้ลเป็นนั้นทั้งน่ารักและมีเสน่ห์ เป็นแมวขนาดกลางแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความฉลาด หมาบีเกิ้ลเป็นสุนัขนักดมกลิ่นที่มีพลังงานเหลือล้น มีจิตใจร่าเริง และซื่อสัตย์ ด้วยความสามารถในการดมกลิ่นที่ยอดเยี่ยม บีเกิ้ลจึงเกิดมาเพื่อเป็นนักติดตามกลิ่นที่ชื่นชอบการตามกลิ่นไปทุกที่อย่างมีความสุข บีเกิ้ลนำความสุขและความรักมาสู่ทุกบ้าน และยังเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอีกด้วย! มาค้นพบลักษณะเด่นที่ทำให้พวกเขาน่าหลงใหลกันเถอะ
ข้อมูลทั่วไป
อายุขัยเฉลี่ย: | 12 – 15 ปี |
น้ำหนัก: | ตัวผู้หนักประมาณ 9-13 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนักประมาณ 9-10 กิโลกรัม |
ส่วนสูง: | ส่วนสูงเฉลี่ยของตัวผู้ประมาณ 33-38 เซนติเมตร ส่วนตัวเมียประมาณ 30.5-33 เซนติเมตร |
ขน: | สุนัขพันธุ์บีเกิ้ลมีขนสั้น และนุ่มน่าสัมผัส |
ขนาด: | สุนัขขนาดกลาง |
บีเกิ้ลเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่เก่าแก่และเป็นที่รักมากที่สุด โดยมีต้นกำเนิดจากอังกฤษ ใช้ล่าสัตว์ขนาดเล็ก เช่น กระต่าย และได้รับความนิยมจากราชวงศ์อังกฤษอย่างมากในยุคของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 และพระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 นอกจากนี้ยังมีบีเกิ้ลพันธุ์มินิที่เรียกว่า “Glove Beagles” ขนาดเล็กจนสามารถพกพาในกระเป๋าได้ ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยพระนางอลิซาเบธที่ 1
บีเกิ้ลยุคใหม่เกิดจากการผสมพันธุ์สุนัขล่ากลิ่นหลายสายพันธุ์ในอังกฤษช่วงปี 1830 รวมถึงสายพันธุ์ Talbot Hound ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว บีเกิ้ลขึ้นชื่อเรื่องประสาทสัมผัสการดมกลิ่นที่ยอดเยี่ยม มีบุคลิกเป็นมิตรและมีชีวิตชีวา บีเกิ้ลยังเป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมป๊อป เช่น ตัวละคร Snoopy และในภาพยนตร์อย่าง John Wick และ Shiloh ปัจจุบัน บีเกิ้ลยังคงเป็นที่ชื่นชอบในครอบครัวและถูกฝึกเพื่อทำงานหลากหลาย เพราะน่ารัก ฉลาด และประสาทสัมผัสไว พวกมันยังถูกฝึกในสนามบินเพื่อตรวจจับอาหารต้องห้ามในกระเป๋าเดินทางด้วย
อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างของพันธุ์สุนัขทั้งหมดใช่ไหม? ที่หน้าสายพันธุ์สุนัขของเรามีข้อมูลทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับพวกเขา
ร่าเริง ขี้เล่น และเต็มไปด้วยพลัง บีเกิ้ลเป็นสุนัขแสนซุกซนที่ทำให้เจ้าของต้องคอยระวังอยู่เสมอ ด้วยนิสัยสดใสและน่ารัก พวกมันจึงเป็นเพื่อนเล่นที่ดีทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ แต่บีเกิ้ลต้องการความใส่ใจและการมีปฏิสัมพันธ์อย่างมาก หากปล่อยให้อยู่ตามลำพังนานเกินไป อาจเห่า หรือร้องเสียงดัง ดังนั้นการเลี้ยงบีเกิ้ลให้มีความสุขจึงควรให้มีเพื่อนสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอยู่ด้วย เพราะพวกมันเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีสังคม บีเกิ้ลยังมีความตื่นตัวสูงและประสาทสัมผัสไว จึงมักเห่าเสียงดัง หากไม่ได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม สัญชาตญาณนักล่าของพวกมันอาจทำให้เกิดปัญหากับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น โดยรวมแล้ว บีเกิ้ลชอบสำรวจ ใช้ประสาทสัมผัส และชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง จึงเป็นเพื่อนผจญภัยที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ

ถึงแม้ว่าบีเกิ้ลจะเป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรงโดยทั่วไป แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคบางอย่างที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ และควรได้รับความใส่ใจจากเจ้าของ ในหลายกรณีจึงจำเป็นต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาหรือใช้ยาอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยจัดการกับโรคและเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสุนัขบีเกิ้ล โรคเหล่านี้ได้แก่:
บีเกิ้ลมีความอยากอาหารสูง จึงเสี่ยงที่จะน้ำหนักเกินถ้าได้รับอาหารมากเกินไป เจ้าของควรเลือกอาหารที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และให้บีเกิ้ลได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การควบคุมปริมาณอาหารและการออกกำลังกายทุกวันช่วยให้บีเกิ้ลสุขภาพดีและรูปร่างดี
หมอนรองกระดูกเคลื่อนอาจทำให้บีเกิ้ลมีอาการปวดรุนแรงที่คอหรือหลัง และในบางกรณีอาจทำให้สูญเสียความรู้สึก อัมพาต หรือควบคุมการปัสสาวะและอุจจาระไม่ได้ การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงและตำแหน่งของการบาดเจ็บ หากจำเป็นอาจต้องผ่าตัดเพื่อลดแรงกดทับไขสันหลัง แต่การผ่าตัดไม่ได้รับประกันว่าบีเกิ้ลจะฟื้นตัวเต็มที่เสมอไป
บีเกิ้ลเสี่ยงต่อโรคกระดูกและข้อต่อหลายชนิด เช่น โรค Musladin-Lueke Syndrome ซึ่งเป็นโรคหายากที่มีผลต่อเนื้อเยื่อ อวัยวะ กระดูก และผิวหนัง อีกโรคที่พบได้บ่อยคือ โรคสะโพกเสื่อม (hip dysplasia) ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้ข้อต่อสะโพกไม่พอดี ส่งผลให้ขาส่วนหลังมีอาการเจ็บปวด โดยเฉพาะเวลาที่เดินหรือจะลุกขึ้น
อีกปัญหาหนึ่งคือ โรคข้อเข่าเลื่อน (patellar luxation) ซึ่งมักพบในสุนัขพันธุ์เล็กหรือขนาดกะทัดรัด สุนัขที่เป็นอาจเดินยกขาเบาๆ สั่นหรือยืดขาก่อนเดินปกติ หรือแสดงอาการไม่สบายตัว หากไม่ได้รับการรักษา โรคเหล่านี้อาจลุกลามจนทำให้เกิดข้ออักเสบหรือข้อเสื่อม ในกรณีรุนแรงอาจต้องผ่าตัดเพื่อคืนความสะดวกสบายและความคล่องตัว
บีเกิ้ลเสี่ยงต่อโรคตาหลายชนิดที่อาจกระทบต่อการมองเห็นและความสบายของตา โรคที่พบบ่อยคือ “cherry eye” ซึ่งเป็นการบวมของต่อมน้ำตาที่เปลือกตาที่สามจนโผล่ออกมาที่มุมตา อีกโรคร้ายแรงคือโรคต้อหิน (glaucoma) หรือโรคจอประสาทตาเสื่อม (PRA) ซึ่งเกิดจากความดันภายในลูกตาสูง ทำให้ตาขุ่นและเจ็บปวด หากไม่รักษาอาจสูญเสียการมองเห็นถาวร
การตรวจตาเป็นประจำ (ปีละ 2 ครั้ง) ช่วยตรวจพบปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ หากพบอาการบวม ขุ่น หรือแสดงความไม่สบายตา ควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อรักษาอย่างทันท่วงทีและรักษาคุณภาพชีวิตของบีเกิ้ล
โรคลมชักเป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยในบีเกิ้ล เกิดจากความผิดปกติของสัญญาณไฟฟ้าในสมอง ทำให้เกิดอาการชักที่มีระดับความรุนแรงต่างกัน อาการรวมถึงการหมดสติ การเหยียดขา การเซ หรือการล้ม และอาจเกิดอาการสับสนชั่วคราว โรคนี้มักแสดงอาการตั้งแต่อายุประมาณ 6 เดือน แม้จะน่ากลัว แต่ส่วนใหญ่สามารถควบคุมได้ด้วยการรักษาที่เหมาะสม ทำให้บีเกิ้ลสามารถมีชีวิตปกติและมีสุขภาพดีได้
– บีเกิ้ลมีขนสั้น ไม่หนามาก จึงทำให้ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศต่าง ๆ ได้ดี แต่ปัญหาอย่างเดียวคือขนร่วง ดังนั้นเจ้าของที่เลี้ยงบีเกิ้ล ต้องหมั่นแปรงขนให้พวกเค้าเป็นประจำ หรือประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าขนสะอาดและอยู่ในสภาพที่ดี เนื่องจากมีขนสองชั้น ขนจึงอาจร่วงหนักมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ คุณอาจต้องแปรงขนให้พวกเค้าบ่อยขึ้นในช่วงนี้ บีเกิ้ลไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย เว้นเสียแต่ว่าพวกเค้าจะเล่นซนจนเนื้อตัวมอมแมม หรือขนเต็มไปด้วยโคลน ส่วนเล็บควรตัดเป็นประจำ ไม่ควรปล่อยให้ยาวจนเกินไป สุดท้ายคือควรดูแลทำความสะอาดใบหูทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะใบหูที่ห้อยลงมา ปิดกั้นการไหลเวียนของอากาศภายในหู ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อที่หูได้ คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำหรือวิธีทำความสะอาดใบหูที่ถูกต้อง
– บีเกิ้ลมีความต้องการออกกำลังกายสูง เนื่องจากเป็นสุนัขที่พลังงานเยอะ พวกเค้าต้องได้เดินอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง จะเป็นการเดินเล่นในสวนหรือเดินในละแวกบ้านของคุณก็ได้ การเดินเล่นจะช่วยให้พวกเค้าแข็งแรง และมีความสุขมาก ๆ ข้อควรระวังในการเดินเล่นกับบีเกิ้ลคือ ต้องใส่สายจูงทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเค้าวิ่งเตลิดหรือออกวิ่งไล่ล่าเหยื่อ การฝึกให้เขากลับมาหาเมื่อถูกเรียกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าคุณวางแผนจะพาหมาบีเกิลไปวิ่งเล่นในสวนสาธารณะหรือพื้นที่เปิด
– บีเกิ้ลเป็นสุนัขที่เฉลียวฉลาด แต่ฝึกค่อนข้างยาก เพราะสัญชาตญาณความเป็นนักล่าในตัว ทำให้พวกเค้ามักออกไปสำรวจสิ่งต่าง ๆ ตามใจชอบ มากกว่าทำตามคำสั่ง คุณอาจต้องใช้ขนมเป็นตัวช่วยดึงดูดความสนใจพวกเค้ามากหน่อย รวมถึงอาจฝึกผ่านการเล่นเกมที่น่าสนใจและสร้างความสนุกสนานได้ดี ข่าวดีคือ บีเกิ้ลเรียนรู้ได้รวดเร็วและเจริญเติบโตได้ดีจากการฝึกด้วยวิธีให้รางวัล โดยเฉพาะเมื่อใช้ของกินเป็นแรงจูงใจ กุญแจสำคัญคือควรเริ่มฝึกบีเกิ้ลตั้งแต่ยังเล็ก และให้พวกเขาได้เข้าสังคมอย่างเพียงพอในช่วงวัยลูกสุนัข
บีเกิ้ลเป็นจอมตะกละที่พร้อมจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อให้ได้ปริมาณอาหารที่เพียงพอและเหมาะสม แนะนำให้แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 2 มื้อต่อวัน และควรเป็นอาหารเม็ดปริมาณ ¾ ถ้วยต่อมื้อ เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์อื่น สำหรับบีเกิ้ลอาหารที่พวกเค้าควรได้รับจะขึ้นอยู่กับช่วงวัย ไลฟ์สไตล์ ขนาดตัว และอายุ
บีเกิ้ลของคุณคู่ควรกับสิ่งที่ดีที่สุด และ เพดดิกรี ก็พร้อมมอบสิ่งนั้น ด้วยสูตรอาหารที่ผสมผสานสารอาหารจำเป็นอย่างลงตัวเพื่อสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของสุนัขแสนรักของคุณ
ด้วยสารอาหารจำเป็นถึง 38 ชนิด เพดดิกรี สูตรสำหรับสุนัขพันธุ์กลาง จึงเป็นอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล ช่วยให้บีเกิ้ลของคุณมีสุขภาพดีทั้งภายในและภายนอก!
ได้เป็นอย่างดีเลย บีเกิ้ลเข้ากับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้ดี ด้วยนิสัยที่เป็นมิตรของพวกเค้า บวกกับถูกเพาะพันธุ์ให้อยู่เป็นกลุ่มเป็นฝูงด้วย
บีเกิ้ลเป็นสุนัขที่เหมาะจะเลี้ยงในครอบครัว พวกเค้าเป็นเพื่อนสี่ขาที่ดีสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
ไม่แนะนำให้ปล่อยบีเกิ้ลโตเต็มวัยอยู่บ้านตามลำพัง พวกเค้าต้องการเพื่อน และจะเริ่มส่งเสียงร้องเมื่อรู้สึกเบื่อหรือไม่ได้รับความสนใจเป็นเวลานาน
บ่อย บีเกิ้ลมีนิสัยเฝ้าระวัง และจะเห่าใส่คนแปลกหน้า หรือเห่าเมื่อรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติที่น่าสงสัย

ช้อปเลย!
เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพดดิกรี® ได้ที่